จากการที่โค้ชได้มีโอกาสไปเข้าสัมมนาเกี่ยวกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ทำให้ได้รับความรู้ที่จะมีผลกระทบกับคนไทยเกือบทุกคน
โดยส่วนตัวแล้วโค้ชเห็นด้วยกับการนำมาใช้ เพราะจะได้มีงบประมาณในการพัฒนาประเทศได้มากยิ่งขึ้น
แต่ควรต้องมีการปรับให้เหมาะสม และไม่ซับซ้อนมากเกินไป

โค้ชขอสรุปข้อมูลสำคัญที่น่าสนใจบางส่วนมาแบ่งปันให้กับพวกเราดังนี้
1. แนวคิดของการใช้กฎหมายข้อนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีการเสนอมานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่ยังไม่สามารถกำหนดให้ใช้ได้
2. ประเทศที่เจริญแล้ว ต่างก็มีการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเช่นกัน เพื่อนำรายได้มาพัฒนาประเทศ
3. วัตถุประสงค์หลักในการออกกฎหมายข้อนี้คือ ต้องการแก้ไขปัญหาการเก็บภาษีแบบเก่าที่มีความซ้ำซ้อน และลดความเลื่อมล้ำของคนรวยและคนมีรายได้น้อย
4. เป็นการกระตุ้นให้มีการนำที่ดินมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ แต่ต้องระวังไม่ให้เกิดภาวะที่มีผลผลิตล้นตลาด จนทำให้ราคาสินค้าหรือบริการนั้นๆ ตกลง
5. ปัจจุบันประเทศไทยมีที่ดินอยู่ประมาณ 13.4 ล้านแปลง และทุกคนสามารถเข้าไปดูราคาประเมินในอินเตอร์เน็ตได้ ถ้ารู้เลขที่โฉนด
6. การกำหนดข้อบังคับต่างๆ ควรจะมีการเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการร่างด้วย เพื่อที่จะได้ลดปัญหาและความขัดแย้ง
7. ข้อกำหนดต่างๆ จะต้องลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ให้มากที่สุด เพื่อความโปร่งใสในการพิจารณา
8. กฎหมายที่ออกมาจะต้องปฏิบัติได้ง่าย ไม่ซับซ้อน และที่สำคัญประชาชนต้องยอมรับจำนวนค่าใช้จ่ายที่สามารถชำระได้จริง ถ้าสูงมากเกินไป ก็จะทำให้เกิดการหลบเลี่ยงภาษีได้



กฎหมายนี้คาดว่าจะมีการกำหนดใช้ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2562
พวกเรามีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ??
แล้วโค้ชจะเอาความรู้ดีๆ ไปแบ่งปันในสัมมนาต่อนะครับ
ปล. ขอขอบคุณสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และวิทยากรทุกท่านที่จัดงานดีๆ และมีประโยชน์ เช่นนี้ครับ