สำรวจตลาดอสังหาที่ฮ่องกงแบบเจาะลึก

สำรวจตลาดอสังหาที่ฮ่องกงแบบเจาะลึก

16 March 2017

โค้ชโชคดีที่ได้มีโอกาสมาสำรวจตลาดอสังหาที่ฮ่องกงแบบเจาะลึก ทำให้รู้ว่าทิศทางของอสังหาบ้านเราจะเป็นอย่างไร?

สิ่งที่โค้ชพบเห็นมากจนต้องประหลาดใจก็คือบริษัทเอเจนท์ที่ประกาศขายและปล่อยเช่าอพาร์ทเมนท์ มีอยู่มากมายทั่วฮ่องกง 

และขอสังเกตจากป้ายที่ติดประกาศก็คือ เขาจะบอกพื้นที่เป็นตารางฟุต (10.76 ตารางฟุตเท่ากับ 1 ตารางเมตร)

ท่ีฮ่องกงเราสามารถซื้ออพาร์ทเมนทำและเป็นเจ้าของไปได้ตลอด (Freehold) แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต เพราะประเทศจีนอาจจะเข้ามามีส่วนร่วมในการปกครองฮ่องกงมากยิ่งขึ้นในอนาคต ที่ประเทศจีนการขายจะเป็นแบบเช่าซื้อ (Leasehold ) มีสิทธิ์ถือครองได้ 70 ปี

ชาวฮ่องกงที่ต้องการจะซื้ออพาร์ทเมนท์หลังที่ 2 จะต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นอีก 15% 

แต่ถ้าเป็นชาวต่างชาติจะต้องจ่ายภาษี (stamp duty) เพิ่มสูงถึง 30% 

เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ป้องกันไม่ให้มีการซื้อเพื่อเก็งกําไรจนทำให้ราคาสูงมากจนเกินไป เหมือนกับประเทศสิงคโปร์ และไต้หวันเลยครับ

เพราะในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา คนจีนที่มีกำลังซื้อสูงเข้ามาซื้ออพาร์ทเมนท์ที่ฮ่องกงเพื่อลงทุนกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น จนคนรุ่นใหม่ของฮ่องกงเองก็ไม่สามารถซื้อมาเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ ยกเว้นพ่อแม่จะซื้อให้

การประกาศขายหรือเช่าอพาร์ทเมนท์ จะบอกพื้นที่สองส่วน คือ 
1. Gross จะรวมพื้นที่ส่วนกลาง รวมกับพื้นที่ห้องที่เป็นส่วนตัวของเราจริงๆ 
2. Net คือพื้นที่ห้องที่เป็นส่วนตัวของเราจริงๆ เท่านั้น 

จากตัวอย่างรูปที่โค้ชถ่ายมา ห้องพักแถวถนน Kimberley ฝั่งเกาลูน
พื้นที่ Net 950 ตารางฟุต
พื้นที่ Gross 1,200 ตารางฟุต

ค่าเช่าจะสูงถึง 35,000 เหรียญฮ่องกง หรือประมาณ 157,849 บาท/เดือนเลยทีเดียว

ผลตอบแทนของที่นี่ประมาณ 2-3% ห้องขนาดเล็กจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าห้องขนาดใหญ่ 

ข้อสังเกตอีกอย่างของอพาร์ทเมนท์ที่นี่ก็คือ จะสร้างชิดติดกันมากๆ ห่างกันแค่ประมาณ 4-5 เมตร ถ้าอพาร์ทเมนท์เก่าๆ 50-70 ปี คอมเพรสเซอร์แอร์จะแขวนอยู่ด้านนอกอาคารเพราะพื้นที่แพงมากๆ จึงไม่มีระเบียงเอาไว้วางอย่างบ้านเรา





 

แต่ถ้าเป็นอพาร์ทเมนท์ใหม่ เน้นความสวยงามมากยิ่งขึ้น มีระเบียงเพื่อวางคอมเพรสเซอร์แอร์ แต่ก็ต้องยอมจ่ายแพงกว่า 

จากข้อมูลโค้ชพอจะสรุปได้ว่า ในอนาคตคอนโดที่ดีของประเทศไทย ก็คงมีราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างแน่นอนไม่ว่าหลายคนจะบ่นว่าทำไมราคาถึงแพงขนาดนี้... 

เพราะฉะนั้นพวกเราจำเป็นต้องรีบเรียนรู้การลงทุนกันอย่างจริงจังซะแล้ว 
แล้วโค้ชจะนำข้อมูลดีๆ ไปเล่าให้ฟังต่อในสัมมนานะครับ