ข้อมูลสถิติจำนวนผู้สูงอายุประเทศไทย ปี 2561 จากกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่าประเทศไทยมีผู้สูงอายุ 10.6 ล้านคนคิดเป็น 16% จากคนไทย 66.4 ล้านคน ซึ่งถือว่า ประเทศไทยนั้นได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว เมื่อมีเปอร์เซ็นต์ของผู้สูงอายุมากกว่า 10% ขึ้นไป และมีแนวโน้มว่าในปี 2574 คนไทยกว่า 30% จะมีอายุมากกว่า 60 ปี

ซึ่งการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทยนั้นเป็นหัวข้อที่ร้อนแรงที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสิ่งต่างๆ ในอนาคตของประเทศเลยก็ว่าได้ หลายๆ บริษัท ก็ได้เตรียมแผนการพัฒนาสินค้าและบริการของตนเอง ให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้สูงอายุ


ขอบคุณรูปภาพจาก checkraka.com

และจากข้อมูลยังพบว่าประเทศไทยยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับชาวต่างชาติที่อยู่ในวัยเกษียณจากทั่วโลก ด้วยพื้นฐานและโครงสร้างที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดชาวต่างชาติ อีกทั้งค่าครองชีพที่ต่ำเมื่อเทียบกับ ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คนไทยยิ้มแย้มแจ่มใสมีความเป็นมิตร อากาศของเมืองไทย ก็ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป เหมาะกับผู้สูงอายุที่มาจากประเทศในเขตหนาว การซื้อคอนโดเพื่อผู้สูงอายุในประเทศไทย จึงไม่ได้เป็นที่นิยมเฉพาะคนไทยเท่านั้น เพราะชาวต่างชาติที่กำลังอยู่ในวัยสูงอายุก็หันมาซื้อคอนโดที่ไทยเพื่ออยู่อาศัยในบั้นปลายชีวิตเช่นกัน



ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่า มีชาวต่างชาติที่ขอวีซ่าประเภท Long Stay Visa เพื่อใช้ชีวิตบั้นปลายในเมืองไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 15 อันดับแรก ได้แก่ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย นอร์เวย์ จีน สวีเดน เนเธอร์แลนด์ อินเดีย อิตาลี แคนาดา และไต้หวัน

ดังนั้นประเทศไทยซึ่งเป็นสังคมผู้สูงอายุแล้วนั้นจะยิ่งมีความต้องการที่อยู่อาศัยและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างมาก ปัจจุบันผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักจะอยู่กับครอบครัว แต่ในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลง คนไปทำงานในเมืองมากขึ้น ทำให้ผู้สูงอายุนั้นไม่มีผู้คอยดูแล และปัจจุบันอัตราการเกิดของคนลดลง หลายๆ ครอบครัว แต่งงานกัน แต่ไม่มีลูก และหลายๆ คน ก็ไม่แต่งงาน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าคนวัยทำงานในปัจจุบันก็เริ่มวางแผนการใช้ชีวิตตอนเกษียณอายุมากขึ้น เพราะต้องการความสะดวกสบายในบั้นปลายชีวิต และไม่อยากเป็นภาระกับคนในครอบครัว

ปัจจุบันเราจะเห็นว่าคอนโดบางที่ หรือโรงแรม และสถานที่สาธารณะหลายแห่งได้เล็งเห็นความสำคัญ ของผู้สูงอายุมากขึ้น และได้วางแผนที่จะทำธุรกิจเพื่อเจาะกลุ่มตลาดผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการดีไซน์ตกแต่งห้อง การใช้เฟอร์นิเจอร์ที่แข็งแรงทนทาน การออกแบบโครงการให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้สูงอายุ เช่น ใช้ประตูที่กว้างเพียงพอต่อการให้รถเข็นผ่านเข้าออกได้ การใช้พื้นกันลื่น การออกแบบที่หลีกเลี่ยงการทำพื้นต่างระดับ การมีราวจับในห้องน้ำบริเวณชักโครกเพื่อป้องกันการลื่น และช่วยพยุงตัวเวลาลุกขึ้น การใช้ที่จับประตูแบบคันโยกแทนการใช้ลูกบิดแบบกลม เพื่อให้ง่ายต่อการเปิด-ปิดประตู เพราะผู้สูงอายุอาจไม่ค่อยมีกำลังมือในการใช้ลูกบิด มีกริ่งเตือนภัย หรือปุ่มกดเพื่อแจ้งเหตุฉุกเฉินภายในห้อง เป็นต้น


ขอบคุณรูปภาพจาก Thinkofliving.com

และหากโครงการอยู่ใกล้โรงพยาบาลหรือคลินิกที่เปิดให้บริการ 24 ช.ม. ก็จะยิ่งได้รับความสนใจเป็นพิเศษ



สำหรับโค้ชคิดว่า ไม่ว่าจะมีโครงการที่ออกแบบให้เหมาะกับผู้สูงอายุมากน้อยแค่ไหน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การได้รับการดูแลทางจิตใจ และการเอาใจใส่ของคนในครอบครัว จริงไหมครับ


ขอบคุณรูปภาพจาก Thaihealth